มาเลเซีย แก๊งเด็กผู้หญิงเล่นพิเรนทร์ เปิดกระจกรถยนต์ที่กำลังวิ่งเร็ว โผล่ขึ้นมานั่งรับลมสบายใจเฉิบ รถขับผ่าน ทำไม่สนใจ วันที่ 29 ธันวาคม 2564 เว็บไซต์ Worldofbuzz รายงานว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียในมาเลเซียพากันแชร์คลิปวิดีโอ พฤติกรรมผาดโผนของกลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่พากันเล่นพิเรนทร์เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ด้วยการโผล่ขึ้นมานั่งตรงกระจกประตูรถยนต์ จนผู้ที่ใช้ท้องถนนผ่านไปมายังต้องตกใจเพราะกลัวจะเกิดอันตราย
จากในคลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่จะเห็นว่า
ขณะที่รถยนต์คันหนึ่งกำลังวิ่งไปบนถนนด้วยความเร็วสูง มีกลุ่มเด็กผู้หญิง 3 คน เปิดกระจกรถลงมาแล้วเอาตัวขึ้นไปนั่งรับลมสบายใจ ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยใด ๆ มีเพียงใช้มือที่จับบริเวณหลังคารถเอาไว้
ผู้ใช้ถนนที่ขับผ่านไปเห็นเหตุการณ์ตกใจไปตามกัน โดยมีรถคันหนึ่งพยายามถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ในขณะที่กลุ่มเด็กผู้หญิงดังกล่าวก็เห็นว่ามีคนเห็นแต่ก็ไม่ได้สนใจ ทำเพียงแค่หันมามองอย่างไม่สะทกสะท้านและไม่มีท่าทางว่าจะกลัวการเกิดอุบัติเหตุ แถมรถยนต์คันดังกล่าวยังเร่งเครื่องขับไปต่อ
หลังจากคลิปวิดีโอถูกแชร์ต่อบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างตำหนิการกระทำของกลุ่มเด็กสาวนี้ เพราะนอกจากจะมีความผิดทางกฎหมายแล้ว แต่ยังทำให้ผู้อื่นที่ร่วมใช้รถใช้ถนนอยู่ในความเสี่ยงอันตรายไปด้วย
WHO ได้ออกมาเตือนว่า ยอดผู้ป่วยโควิด สายพันธุ์โอมิครอนและเดลต้า อาจเพิ่มสูงขึ้นมาก เป็นเหมือนคลื่น ‘สึนามิ’ ที่ถล่มระบบสาธารณสุข เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า นาย เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกมาแสดงความกังวลถึงการแพร่ระบาดของโควิดที่ในขณะนี้ทั่วโลกกำลังเจอผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง
โดยนาย เกเบรเยซุส ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดโอมิครอนและสายพันธุ์เดลต้า อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นมากและรวมตัวเหมือนเป็นคลื่นสึนามิที่สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับระบบสาธารณสุข
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดทั่วโลกในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในช่วงวันที่ 20 ถึง 26 ธันวาคม ทั่วโลกพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เกือบ 4.99 ล้านราย
ซึ่งผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่มาจากทวีปยุโรป โดยในจำนวนผู้ป่วยใหม่ในช่วงวันที่ 20 – 26 ธ.ค นั้น กว่าครึ่งเป็นผู้ป่วยจากทวีปยุโรป ซึ่งทวีปยุโรปพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ขณะที่ทวีปอเมริกาพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 และ แอฟริกา เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7
นาย เกเบรเยซุส ยังได้เปิดเผยอีกว่าจากจำนวนประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก 194 ประเทศนั้น พบว่า 92 ประเทศ ยอดฉีดวัคซีนประชาชนไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ร้อยละ 40 ของจำนวนประชาชน ซึ่งทาง WHO ได้ขอให้แต่ละประเทศตั้งเป้าหมายว่า จะฉีดวัคซีนถึงร้อยละ 70 ในช่วงเดือนกรกฎาคมปีหน้า เพื่อป้องกันโควิดต่อไป
วุ่น! ออสเตรเลีย ส่ง ผลตรวจโควิดผิด พบติดเชื้อจริง 400 ราย
เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อทางห้องทดลอง ออสเตรเลีย ส่ง ผลตรวจโควิดผิด พบติดเชื้อจริงกว่า 400 ราย หลังจากที่ผลตรวจก่อนหน้านี้บอกไม่มีผู้ติดเชื้อ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า ห้องทดลอง ซิดพาร์ท (SydPath) ได้ออกมาแถลงว่าทางห้องทดลองส่งผลตรวจโควิดผิด และระบุว่าผลตรวจประชาชนชาวออสเตรเลีย 995 คนไม่ติด ทั้งๆที่ในช่วงเวลาที่เผยแพร่ข้อมูลออกไป ยังไม่ทราบผลตรวจ
โดยทางห้องทดลองให้เหตุผลว่า เป็นการประเมินข้อมูลผิดพลาด อย่างไรก็ตามผลตรวจจริงนั้นพบว่าในจำนวนดังกล่าว พบผู้ติดโควิด 486 ราย ขณะนี้ประเทศออสเตรเลียกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยโควิดรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาประเทศออสเตรเลียพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 11,260 ราย ซึ่งจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดที่ยังคงป่วยอยู่ขยับขึ้นมามากกว่า 3 แสนราย
ทั้งนี้ทางห้องทดลองยืนยันว่าจะแจ้งผลตรวจโควิดใหม่ให้ทราบอีกที และแนะนำให้ประชาชนที่ได้รับผลตรวจก่อนหน้านี้เข้ากักตัว จนกว่าจะได้ผลตรวจที่ถูกต้อง
ทางองค์การกุศลเพื่อเด็ก Save The Children ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สองคน เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุเหตุสังหารโหดใน เมียนมา ที่มีผู้เสียชีวิต 35 ศพ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม เว็บไซต์องค์การกุศล เซฟ เดอะ ชิลเด้น (Save The Children) ได้ออกแถลงหลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่การกุศล 2 คน สูญไปหลังถูกโจมตี สหประชาชาติ หรือ UN ได้กล่าวว่า เขารู้สึกหวาดกลัว หลังได้รับทราบรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบ ร่างมนุษย์ถูกเผา 35 ศพ ในรัฐกะยา ประเทศเมียนมา
โดยทางองค์การยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สองคนเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุเศร้าครั้งนี้ พร้อมระบุว่าทั้งสองถูกจู่โจม ขณะที่พวกเขากำลังเดินทางกลับไปยังสำนักงาน หลังจากที่พวกเขาลงหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ใกล้เคียง
ด้านนาง เกวน ไฮเนสท์ ประธานคณะกรรมการบริหารขององค์กรได้ออกมาแถลงว่า ความรุนแรงต่อประชาชนเป็นเรื่องที่ลับไม่ได้ รวมถึงความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่การกุศล และเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ทางองค์การยังได้กดดันให้ทางสหประชาชาติรีบหารือถึงประเด็นดังกล่าวให้เร็วที่สุด และเร่งหาทางที่นำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง